Thursday, September 23, 2010

เจาะลึก Re-entry

เคยพูดถึงการ Re-entry มาหลายครั้ง วันนี้เรามาว่ากันแบบเจาะลึกค่ะ

นักเรียนหลายๆ คน Out of status กลายเป็นโรบินฮู้ด แบบทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ แบบทั้งรู้ตัว และไม่รู้ตัว แบบทั้งสาเหตุเพราะตัวเอง และเพราะคนอื่น ในกรณีแบบนี้อย่าเพิ่งตกใจโวยวายไป อันดับแรกตั้งสติ แล้วไปหยิบพลาสปอร์ตมาเปิดดูวีซ่าซะก่อน ถ้าวีซ่ายังไม่หมดอายุก็ถอนหายใจใหญ่ๆ โล่งอกไปได้เลย เพราะ Re-entry ช่วยคุณได้ ...

แต่เงื่อนไขของการ Re-entry ก็คือ 1. วีซ่าต้องยังไม่หมดอายุ 2. เวลาต้องไม่เกิน 60 วันหลังจาก Out of status (เคยมีคนเกินกว่านั้น แต่ไม่แนะนำเพราะว่ามันเสี่ยงเกินไป ถ้าถามว่าเกินแล้วทำได้ไหม ก็มีทางทำได้ แต่ไม่สามารถบอกในที่นี้ได้ อีเมล์ หรือโทร.มาคุยดีกว่าสำหรับกรณีนี้)

วิธีการคือ การออกนอกประเทศแล้วกลับเข้ามาใหม่ ด้วย I-20 ใหม่ ซึ่งจะมีสถานะเทียบเท่ากับนักเรียนใหม่นั่นเอง จะกลับไปประเทศบ้านเกิด หรือจะไปใกล้ๆ แค่แม็กซิโก ก็ได้

วิธีการก็คือ

1. ขอ I-20 ใหม่ จากโรงเรียนไหนก็ได้ที่คุณต้องการไปเรียน ก็คือไปสมัครเรียนนั่นแหล่ะ จ่ายค่าสมัคร ค่าเรียน (บางที่แค่มัดจำบางส่วน) และค่า SEVIS fee

2. เมื่อได้ I-20 แล้ว ก็ออกนอกประเทศโลด

a. ในกรณีที่ต้องการกลับประเทศเกินกว่า 60 วันแต่ไม่เกิน 5 เดือน และวีซ่ายังมีอายุมากกว่า 1 ปี ณ วันที่จะกลับมา ก็แค่บินกลับไปพร้อม I-20 นั้น หรือจะให้โรงเรียนส่งให้ทีหลังก็แล้วแต่สะดวก พอกลับมาก็กลับมาพร้อม I-20 ตัวใหม่นี่แหล่ะ เหมือนตอนมาใหม่ๆ เด๊ะ

b. ในกรณีที่โดน Terminated หรือ Out of status มานานเกินกว่า 60 วัน หรือบางคนมากกว่า (ในกรณีนี้ต้องมีผู้รู้เรื่องดี หรือ ซิตีเซ่น หรือ ผู้ถือกรีนการ์ด ในการพาไปจะดีกว่า) ซึ่งแนะนำให้ไปแม็กซิโก ง่ายสุดค่ะ แล้วกลับมา โดยทางรถ หรือเดินก็แล้วแต่ อย่าบินเด็ดขาด ตอนกลับเข้ามาก็โชว์ I-20 ตัวใหม่ เท่านี้ก็เรียบร้อย

นี่ก็เจาะลึกแบบคร่าวๆ ล่ะค่ะ ส่วนที่ลึกจริงๆ คงต้องคุยกันหลังไมค์ อีเมล์ หรือ โทร.มาก็แล้วแต่สะดวกนะคะ peena.py@gmail.com / 1.310.990.8092

Wednesday, August 18, 2010

Change of Status การเปลี่ยนวีซ่าที่อเมริกา

การเปลี่ยนวีซ่า (สถานะภาพ) มาเป็นนักเรียน

ความเดิมจากตอนที่แล้ว ว่าด้วยข่าวลือการเปลี่ยนวีซ่า ให้ความกระจ่างไปแล้วว่าทำได้ และมีผู้สนใจโทร.และอีเมล์มาถามกันมากมาย วันนี้เลยจะมาพูดถึงรายละเอียด และขั้นการขอเปลี่ยนวีซ่า (สถานะภาพ) กันค่ะ

ต้องออกตัวก่อนว่าเก๋สามารถให้รายละเอียดได้เฉพาะการเปลี่ยนสถานะภาพมาเป็นนักเรียนเท่านั้น เพราะมีหลายๆ ท่านโทร.มาถามถึงการเปลี่ยนไปเป็น นักท่องเที่ยว นักลงทุน และทำงาน ก็เสียเที่ยวกันไปเพราะไม่ทราบจริงๆ จะให้ดีที่สุดก็น่าจะต้องปรึกษาทนายด้านอิมมิเกรชั่นโดยตรง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ แต่ถ้าจะให้แนะนำทนายความให้ล่ะก็ได้ค่ะ

กลับมาที่เรื่องการเปลี่ยนสถานะมาเป็นนักเรียนนะคะ เริ่มด้วยมาดูกันก่อนว่าวีซ่าอะไรที่สามารถเปลี่ยนสถานะมาเป็นนักเรียนได้ (COS TO F-1) บ้าง มีดังนี้ค่ะ

A-1, A-2, A-3, B-1, B-2, E-1, E-2, F-2, G-1, G-2, G-3, G-4, G-5, H-1A, H-1B, H-2A, H-2B, H-3, H-4, I, J-1 (IF 2-YEAR-RULE DOES NOT APPLY ON VISA สามารถเปลี่ยนได้ แต่ถ้าเป็น 2-YEAR-RULE DOES APPLY เปลี่ยนไม่ได้ค่ะ), J-2 (depend on J-1), L-1, L-2, N-8, N-9, O-1, O-2, O-3, P-1, P-2, P-3, P-4, Q, R

เมื่อเช็คดูแล้วว่าวีซ่าของเราเข้าข่ายที่จะเปลี่ยนวีซ่าได้ สิ่งที่จะต้องเตรียม และสำคัญที่สุดคือ เงิน คุณจะต้องมีแบงค์สเตทเม้น ขั้นต่ำ $15,000 ในชื่อคุณเอง หรือ สปอร์นเซอร์ (ทั้งนี้ถ้ามีสปอร์นเซอร์ที่เป็น กรีนการ์ด หรือซิติเซ่น จะดีมากๆ โอกาสอนุมัติสูง ซึ่งสปอร์นเซอร์จะต้องกรอกแบบฟอร์ม I-134, Affidavit of Support เพื่อแนบส่งไปด้วย) บางคนถามว่าทำไมเยอะจัง....อย่าลืมค่ะว่าวีซ่านักเรียนของอเมริกา มีกฎข้อห้ามคือ ห้ามทำงาน ดังนั้นคุณจะต้องโชว์หลักทรัพย์ที่เพียงพอต่อการยืนยันว่าสามารถเรียน และอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงาน

เอาล่ะเมื่อหลักฐานด้านการเงินพร้อม ขั้นตอนต่อไปก็ดูวันที่บน I-94 ว่าถึงวันที่เท่าไหร่ จากนั้นก็นับย้อนหลังกลับมาค่ะ เพื่อจะได้รู้ว่าเราควรจะต้องยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสถานะอย่างช้าที่สุดเมื่อไหร่ .... นั้นก็คือ 2 – 1.5 เดือน ซึ่งหากคุณเตรียมเอกสารครบ และยื่นเรื่องภายในเวลาที่กำหนด ส่วนใหญ่จะได้ทราบผลอนุมัติ หรือปฎิเสธ ภายในวันที่ที่ I-94 กำหนด

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าบน I-94 ลงวันที่ June 30, 2009 นับย้อนมา 60 – 45 วัน นั่นหมายความว่า คุณจะต้องยื่นเรื่องอย่างเร็วที่สุดคือ วันที่ May 2,2009 หรือช้าที่สุดวันที่ May 16,2009 เมื่อคุณยื่นไปแล้ว คุณจะได้รับ I-797C, Notice of Action (Notice Type: Receipt Notice) นั่นคือ ใบเสร็จรับเงิน และหนังสือแจ้งว่าทางอิมฯ ได้รับเรื่องของคุณแล้ว ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากส่งเรื่องไป ซึ่งในนั้นจะมีรายละเอียดจำนวนเงินค่าคำร้อง และประเภทวีซ่าที่ขอเปลี่ยน (ในที่นี้คือ F1)

ทีนี้มาดูส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ เอกสารยื่นประกอบคำร้อง ย้ำว่า...เตรียมให้ครบและส่งในครั้งเดียว เพราะถ้าขาดอะไรไป ทางอิมฯ จะส่งจดหมายมาเรียกเพิ่ม ซึ่งก็เสี่ยงต่อการถูกปฎิเสธ และเสียเวลา
เอกสารของตัวผู้ร้อง : สำหรับผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยว
1. A valid passport (more than 6 months - 2 copies)
2. A valid visa
3. A valid I-94
4. A school transcript (original & translated into English 2 copies)
5. A student plan (letter of purpose) ตรงนี้เขียนให้น่าเชื่อถือนะจ๊ะ ให้สมเหตุ สมผล มีเป้าหมายที่แน่นอน และเนื้อหาต้องตอบคำถามเหล่านี้ได้ (แบบว่าดักให้หมด อย่าให้มีข้อสงสัย)
- จุดประสงค์การเปลี่ยนสถานะ ทำไม เพราะอะไร และเพื่ออะไร
- ใช้ระยะเวลานานแค่ไหน
- มีแผนการยังไงต่อไปหลังจากเรียนจบ
...เป็นต้น...
6. Last 5-month bank statements $15,000+ (original)
7. A school acceptance letter
8. An I-20
9. An Invoice
10. A signed I-539
11. A signed G-28
12. A signed the attorney contract (ถ้ามี)

เอกสารของตัวผู้ร้อง : work and travel / J1 12 รายการเหมือนผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยว + 2 รายการเพิ่มเติม คือ
1. Host Family letter
2. DH-211 (copy back & front)

เอกสารของสปอร์นเซอร์ จากเมืองไทย หรือ green card or citizenship ก็ได้
1. A proof of US resident (green card or citizenship)
2. Last 5-month bank statements (original)
3. A complete I-134 with notarization
4. An employment verification letter
5. A copy of W-2 or last 2- year income tax return (green card or citizenship)

ทั้งหมดนี้ ถ้าคุณพร้อม และมีเวลา จัดการเปลี่ยนสถานะได้เองเล๊ย....โดยเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.uscis.gov ได้เลยค่ะ แต่สำหรับหลายๆ คน ที่ไม่มีเวลา ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง มีอาการ งง (เอกสารเยอะแยะ ตาลาย ไม่รู้อะไรเป็นอะไร) ก็คงต้องพึ่งทนายความล่ะค่ะ แต่อย่างที่บอกก็ต้องมีค่าบริการ ซึ่งก็ต้องไปติดต่อ ต่อรองกันเอง ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าบริการ + ค่าสมัครยื่นคำร้อง + ค่าขอ I-20 + ค่า SEVIC fee รวมๆ ค่าใช้จ่ายก็อักโขลอยู่ (ประมาณ $1500 – 2500 รวมทุกอย่าง)

อ่ะ...บางคนบอกว่า ไม่มีปัญหา จ่ายได้ แต่อย่าลืมมองข้อจำกัด ที่ว่า การเปลี่ยนสถานะนี้ ทางอิมฯ จะรับรองสถานะของคุณตราบเท่าคุณอยู่ในอเมริกาเท่านั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่คุณออกนอกอเมริกาจะต้องขอวีซ่าใหม่ค่ะ (ย้ำแล้ว ย้ำอีกนะเนี่ย)

อืม...ถ้าเป็นเก๋นะคะ เก๋จะเอาเงินที่จะต้องจ่ายให้ทนายไปซื้อตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทย แล้วไปขอวีซ่ามาใหม่ดีกว่า ได้ตั้ง 5 ปี แถมคิดถึงบ้านก็บินกลับได้ทุกเมื่อ แต่...ถ้าได้วีซ่าแค่ 1 ปี ก็ต้องต่อวีซ่าใหม่อยู่ดี สงสัยงานนี้ต้องวัดดวงว่าจะได้วีซ่ากี่ปีอีกอ่ะ เฮ้อ...ถ้าเป็นงั้นจริงนะ ใช้วิธีต่อ I-20 เอาก็ละกันค่ะท่านผู้ชม อุเหม่...อุตส่าห์ทำให้ถูกต้องแล้วยังจะมากั๊กเราเองนี่เนอะ ฮา.....

ท้ายนี้ถ้าใครมีคำถามเพิ่มเติม ก็ติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 310-990-8092 หรืออีเมล์ peena.py@gmail.com, peena@languagesystems.com และถ้าหากจะติดต่อขอ I-20 ก็เข้าไปดูรายละเอียดของโรงเรียนได้ที่ www.downtown-lsi.com เนื้อที่หมดแล้ว ไว้เจอกันคราวหน้านะคะ บ๊ายยยยย บาย...

Friday, August 13, 2010

โดน Terminated ต้องทำยังไง

พี่คะหนูโดน Terminated ค่ะ

Terminated คือ การถูกปลดสถานะภาพ จากสถานะภาพที่ถูกกฎหมาย เป็นผิดกฎหมาย (พูดง่ายๆ ว่าเป็นคนเถื่อน Out of Status นั่นเอง) เช่น จากสถานะภาพนักเรียน ก็ถูกปลดให้พ้นสภาพ ผลกระทบคือ จะต้องออกจากประเทศสหรัฐอเมริกาให้เร็วที่สุดภายในเวลาที่กำหนด ไม่เช่นนั้นจะถูกขึ้นแบล็คลิส มีกำหนดสูงสุด 10 ปี

สาเหตุของการถูก Terminated (ในที่นี้ขอพูดถึงกรณีนักเรียนเท่านั้น) คือ


1. ไม่เข้าเรียนตามที่กำหนด (โดยทั่วไปต้องเข้าเรียนไม่ต่ำว่า 80%)

2. ลงทะเบียนเรียนไม่ถึงกำหนด สำหรับนักเรียนต่างชาติ ต้องเต็มเวลา (Full time) คือ

a. เรียนภาษา ต้องเรียนไม่ต่ำว่า 18 ชม.ต่อสัปดาห์

b. วิทยาลัย หรือ มหาวิทยาลัย ต้องลงทะเบียนเรียน 8-12 เครดิตขั้นต่ำ (แล้วแต่โรงเรียน)

มีน้องคนนึงเรียนพยาบาล โดยกฎต้องลงเรียน 12 เครดิตขั้นต่ำ น้องก็ลงเรียนไปตามนั้น แต่ระหว่างเทอม รู้สึกว่าเรียนไม่ไหว เลยไปทำเรื่องดร็อปออกวิชานึง ทำให้ต้องถูก Terminated โดยไม่รู้ตัว

3. ทำผิดกฎหมาย เช่น ทำงาน เป็นต้น (กรณีนี้ไม่ขอพูดถึง เพราะต้องทำตามคำสั่งศาลเท่านั้น)


โดยส่วนใหญ่นักเรียนจะโดน Terminated จากกรณีแรก และช่วงนี้ที่โทร.มาขอคำปรึกษาก็เพราะไม่เข้าเรียนนี่แหล่ะ จริงๆ แล้ว ก่อนที่โรงเรียนจะทำการ Terminated นักเรียน จะต้องมีการแจ้งให้ทราบก่อนล่วงหน้า แต่นักเรียนก็ไม่สนใจนึกว่าโรงเรียนขู่เล่นๆ ก็ปล่อยเลยตามเลย บางคนหนักกว่านั้น กลัวโรงเรียนจะโทร.หา เปลี่ยนเบอร์โทร. เปลี่ยนที่อยู่ โดยไม่แจ้งโรงเรียนซะงั้น อ่ะ...พอโรงเรียนติดต่อไม่ได้ เค้าก็ Terminated โดยเจ้าตัวไม่รู้ว่าได้กลายเป็นคนเถื่อนซะแล้ว


วิธีการแก้ไขก็พอมี แต่ต้องรีบทำโดยเร็วที่สุดหลังจากโดน Terminated ภายในเวลาที่กำหนดให้ออกจากประเทศ เช่น ในกรณีที่ยังเรียนไม่ครบเทอมคือ 15 วัน หรือถ้าเรียนมาเกินกว่า 1 เทอม คือ 60 วัน และวิธีการแก้ไขที่นิยมทำกันก็คือ


1. เปลี่ยนสถานะภาพ คือ การแต่งงาน เท่านั้น

2. การทำ Reentry วิธีนี้ง่าย เร็ว และนิยมที่สุด คือออกนอกประเทศ แล้วกลับเข้ามาใหม่ โดยนักเรียนต้องสมัครเรียนใหม่ ขอ I-20 ฉบับใหม่ จ่ายค่า SEVIS fee ใหม่ แล้วถือ I-20 นั้นออกนอกประเทศแล้วกลับมาใหม่ เช่นไปเที่ยวแม็กซิโก (เดิน หรือรถ ไม่ใช่โดยเครื่องบิน) ขากลับเข้ามาก็เอา I-20 ให้อิมมิเกรชั่นแสตมป์ เข้ามาใหม่ เท่านี้ก็กู้สถานะภาพกลับมาได้ละ (ไม่การันตีผล แต่ส่วนใหญ่ก็ผ่านไม่มีปัญหา)

3. การทำ Reinstatement วิธีนี้ยาก ไม่การันตีผล และนาน ที่สำคัญขึ้นอยู่กับโรงเรียนว่าจะทำให้หรือใหม่ ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายสำหรับการนี้ต่างหาก ส่วนใหญ่แล้วโรงเรียนไม่ค่อยอยากจะทำให้เท่าไหร่


ก็คร่าวๆ สำหรับการแก้ไขการโดน Terminated ก็ออกแนวซิกแซกนิดนึง แต่จะให้ดีดูแลสถานะภาพตัวเองให้ปกติสุขจะดีกว่านะคะ ปฎิบัติตามกฎ รับรองไร้ปัญหาค่ะ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ก็ติดต่อมาพูดคุยกันได้ที่ peena.kay@gmail.com / peena.py@gmail.com




ขอให้โชคดี ไร้ปัญหาทุกคนค่ะ

Thursday, August 5, 2010

Beach Party 2010


มาแล้วๆ ปาร์ีตี้หน้าร้อนที่แสนคิดถึง Beach Party 2010

กิน เล่น สนุก ริมหาดที่สวยที่สุด ณ Huntington Beach วันศุกร์ 8/27/10

ที่สำคัญมาร่วมลุ้นว่าปีนี้ สาขาไหนจะครองแชมป์ วอลเล่ย์บอล บีช

แล้วยังมีเกมส์ให้เล่นมากมาย เช่น

tag-of-war, stick game, fill-the-bucket, hula hoop, water
balloons, disgusting food contest.

อย่ารอช้ารีบลงทะเบียนด่วนที่ล็อบบี้

แค่ $10 (ไปเอง) $17 (ไปกับโรงเรียน) ได้เสื้อฟรี 1 ตัว!

ชวนเพื่อนๆ มาสนุกด้วยกันเยอะๆ นะจ๊ะ

Wednesday, July 28, 2010

ได้เพื่อน ได้ลด!!!


ข่าวดีจ้า!!!

สำหรับชาว LSI ที่จะได้ประหยัดค่าเรียนจ้า

เพียงแค่แนะนำ หรือชวนเพื่อนๆมาเรียนด้วยกันที่ LSI
ก็จะได้รับส่วนลดค่าเรียนทันที

คนละ $25

ยิ่งชวนมาหลายคนก็ยิ่งได้ส่วนลดมากขึ้นๆ
เอ๊ะ...ไม่แน่อาจจะได้
เรียนฟรี ก็ได้น๊าค๊า

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่ Peena ค่ะ